🛠️ หมวดการดูแลรักษา (Maintenance & Safety Tips)

เน้นยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าและ Smart Home

1) ทำไมหลอด LED บางรุ่นเสียเร็ว? สาเหตุที่ควรรู้

แม้หลอด LED จะมีอายุยาว แต่ก็มีปัจจัยที่ทำให้เสียก่อนเวลา:

เคล็ดลับ: ถ้าจับหลอดแล้ว “อุ่นจัด” มาก → ระบบระบายความร้อนไม่ดี ควรปรับหรือเปลี่ยนโคม

2) ✨ ทำความสะอาดโคมไฟอย่างไรให้สว่างเหมือนใหม่

โคมไฟสกปรกแค่ ฝุ่นเกาะ ก็ทำให้ความสว่างลดลงได้ถึง 30%

ขั้นตอนทำความสะอาด (แบบปลอดภัย):

1. ปิดสวิตช์ / ถอดปลั๊ก ก่อนทำทุกครั้ง
2. ถอดฝาครอบโคมออก
3. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่นเบา ๆ
4. ถ้ามีคราบมัน → ใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ด แล้วเช็ดให้แห้งสนิท
5. ตรวจน็อต / ขั้วหลอด → ถ้าหลวมให้ขันให้แน่น

อย่าใช้: น้ำยาที่มีแอลกอฮอล์ / ทินเนอร์ / สเปรย์สารเคมีแรง
เพราะอาจทำให้ พลาสติกกรอบ → แตกเร็ว

3) 🔄 ควรเปลี่ยนหลอดไฟกี่ปีครั้ง?

หลอด LED โดยมากมีอายุ 15,000–50,000 ชั่วโมง
แปลว่าใช้วันละ 8 ชม. จะอยู่ได้ประมาณ 5–10 ปี

แต่ควร เปลี่ยนเลย ถ้า:

• ความสว่างลดลง ไม่เท่าเดิม แม้ปรับไม่หาย
• เปิดแล้วมีอาการกะพริบ / กระพริบตอนปิดไฟ
• หลอดร้อนผิดปกติ
• สีของแสงเปลี่ยน (วอร์มกลายเป็นเหลืองเข้ม / ขาวซีด)

สัญญาณว่าหลอดใกล้หมดอายุ = สว่างลดลงทีละน้อยแบบไม่รู้ตัว

4) 🔥 วิธีตรวจสอบว่าโคมไฟร้อนเกินไป หรือมีไฟรั่ว

อาการโคมไฟร้อนผิดปกติ

• หลอดหรือโคมร้อนจนจับไม่ได้เลย
• โคมมีคราบเหลือง / ละลาย
• มีกลิ่นไหม้บาง ๆ

วิธีตรวจสอบ

1. ปิดสวิตช์แล้วแตะโคม → ถ้าร้อนจัดถึงขั้นแสบมือ = ผิดปกติ
2. ปิดไฟทันที แล้วเปิดช่องโคมดูว่าฝุ่นอุดหรือไม่
3. ตรวจหม้อแปลง (Driver) ว่าเสื่อมหรือไม่ → ถ้าเสียงหึ่ง = ควรเปลี่ยน

ตรวจไฟรั่วแบบง่าย

• ใช้ไขควงวัดไฟแตะโครงโคม → ถ้าไฟติดที่ไขควง = มีไฟรั่ว → ให้เรียกช่าง

โคมร้อนเกินไป = นำไฟฟ้าไม่ปลอดภัย + ชีวิตหลอดยิ่งสั้น

🎯 สรุปให้ลูกค้าวางใจเวลาซื้อ