อายุการใช้งาน (Lifespan) ของหลอดไฟ LED เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ LED ได้รับความนิยมมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่น เช่น หลอดไส้ หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
วิธีการคิดอายุการใช้งานของ LED💡
- ค่าชั่วโมงการใช้งาน (Rated Lifetime Hours)
- ผู้ผลิตมักระบุเป็นชั่วโมง เช่น 15,000 ชั่วโมง, 25,000 ชั่วโมง หรือมากกว่า
- ตัวเลขนี้ไม่ได้หมายถึง “ไฟดับ” แต่หมายถึงเมื่อความสว่างลดลงเหลือประมาณ 70% ของค่าเริ่มต้น (ค่า L70)
- ค่า L70, L80, L90
- L70 = อายุการใช้งานจนแสงเหลือ 70% ของเดิม (มาตรฐานที่ใช้บ่อยที่สุด)
- L80, L90 = ใช้กับหลอดหรือโคมที่คุณภาพสูงขึ้น อายุยาวกว่า
ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งาน LED💡
- คุณภาพของชิป LED (LED Chip Quality)
- ชิปคุณภาพสูงทนความร้อนได้ดี ทำให้เสื่อมช้ากว่า
- ระบบระบายความร้อน (Heat Dissipation)
- ความร้อนสูงเป็นศัตรูของ LED ถ้าซิงก์หรือโครงสร้างระบายความร้อนไม่ดี หลอดจะเสื่อมเร็ว
- อุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้า (Driver/Power Supply)
- Driver ที่คุณภาพต่ำทำให้ไฟไม่เสถียร ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง
- สภาพแวดล้อมการใช้งาน
- การติดตั้งในที่อากาศถ่ายเทดี อุณหภูมิไม่สูง จะช่วยยืดอายุ
- หากใช้ในพื้นที่ร้อนจัดหรือชื้น เช่น ภายนอกอาคาร ควรเลือกหลอดที่มี IP Rating เหมาะสม
- การเปิด–ปิดบ่อย
- LED ทนการเปิดปิดได้ดีกว่าหลอดไส้ แต่ถ้าเปิด–ปิดถี่มากเกินไป ก็อาจมีผลต่อวงจรและ Driver
ตัวอย่างการเปรียบเทียบ💡
- หลอดไส้ (Incandescent) : อายุการใช้งาน ~1,000 ชั่วโมง
- หลอดฟลูออเรสเซนต์ (CFL) : อายุการใช้งาน ~8,000 ชั่วโมง
- หลอด LED : อายุการใช้งาน ~15,000 – 50,000 ชั่วโมง (ขึ้นกับคุณภาพและสภาพใช้งาน)
👉 สรุปง่าย ๆ : อายุการใช้งานของหลอด LED ขึ้นกับคุณภาพการผลิต ความร้อนที่สะสม และสภาพแวดล้อมการใช้งาน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน “กี่ปี” แบบตายตัว แต่จะนับจาก “ชั่วโมงการใช้งานรวม”